วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555



information

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] นอกจากในงาน WWDC 2012 จะมีการแนะนำ iOS 6 ตลอดจน MacBook Pro รุ่นใหม่ที่บางลงมากจนหลายคนถึงกับออกปากว่า งานนี้อัลตร้าบุ๊กเจอคู่แข่งที่น่ากลัวซะแล้ว Apple ยังได้มีการอัพเกรดผลิตภัณฑ์เล็กๆ น้อยๆ แบบเงียบๆ อีกด้วยนั่นก็คือ iPad Smart Case ที่จะช่วยปกป้องไอแพดของคุณได้ตลอดทั่วทั้งตัวเครื่อง (สักที)
คงจำกันได้เมื่อครั้งเปิดตัว iPad 2 ทางบริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมอย่าง Smart Cover ปกแม่เหล็กที่สามารถยึดติดกับขอบของ iPad 2 ได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ปกของมันสามารถพับเป็นสามเหลี่ยม เพื่อใช้เป็นขาตั้งไอแพดได้ด้วย ล่าสุดในงาน WWDC 2012 แอปเปิ้ลเปิดตัวเคสรุ่นใหม่สำหรับ iPad โดยใช้ชื่อว่า iPad Smart Case ที่ไม่ได้มีแค่ปกและแถบแม่เหล็กเท่านั้น แต่มันมาพร้อมกับเคสที่ปกป้องด้านหลังของไอแพดได้ด้วย ดีไซน์ของ iPad Smart Case (ดูคล้ายๆ ที่วางจำหน่ายในงาน COMMART NEXT GEN 2012 ที่ผ่านมา แต่ดีไซน์บางกว่า) จะทำจากวัสดุทีมีความยืดหยุ่น และทนทางสูง ช่วยปกป้องทั้งหน้าจอ และด้านหลังเครื่อง ผู้ซื้อ Smart Case กับ Apple จะสามารถสั่งให้ทางบริษัทสลักชื่อ (ยิงด้วยเลเซอร์) ของคุณ (หรือคนพิเศษ) ลงบนเคสได้โดยไม่คิดค่าบริการ
อย่างไรก็ตาม นอกจาก iPad Smart Case จะช่วยปกป้องด้านหลังของ iPad 2 และ new iPad ให้แล้ว มันไม่ได้มีการอัพเกรดฟังก์ชันเพิ่มเติมแต่อย่างใด ผู้ใช้สามารถพับปกของ Smart Case ได้แบบเดียวกับ Smart Cover เพื่อตั้ง iPad สำหรับการรับชมวิดีโอ หรือ FaceTime และสามารถวางลง เพื่อใช้พิมพ์ข้อความ สนนราคาของ iPad Smart Case มีให้เลือก 6 สีด้วยกันได้แก่ สีเทาอ่อน เทาเข้ม น้ำเงิน เขียว ชมพู และแดง จะมีราคา 49 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,500 บาท ส่วน Smart Cover ยังมีจำหน่ายด้วยเหมือนกัน โดยราคาสำหรับเวอร์ชันที่ใช้โพลียูรีเทน (แบบเดียวกับ Smart Case) จะอยู่ที่ 39 เหรียญฯ (ประมาณ 1,200 บาท) และ 60 เหรียญฯ (ประมาณ 1,800 บาท) วัสดุที่ใช้ทำจะเป็น"หนัง"


[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] หลังจากทีมีภาพหลุดข่าวรั่วเกี่ยวกับ iPhone 5 ออกมาได้พักใหญ่ๆ โดยในระยะหลังภาพที่ออกมาจะเป็นชิ้นส่วนของตัวเครื่องที่เผยให้เห็นถึงขนาดหน้าจอ ตลอดจนวัสุดที่ใช้ในการผลิต แต่ก็ไม่ยักจะมีภาพแบบจัดเต็มให้เห็นกันทั้งเครื่องไปเลย หรือว่างานนี้อาจจะต้องรอให้แอปเปิ้ลเปิดตัว iPhone 5 อย่างเป็นทางการถึงจะได้เห็นรูปลักษณ์โดยคร่าวๆ แต่ข่าวดีก็คือ ล่าสุดมีนักออกแบบผลิตภัณฑ์ได้นำข้อมูลต่างๆ ที่ได้บนเน็ตสร้างภาพกราฟิกของ iPhone 5 ออกมาแล้ว
Bryce Haymond ได้นำภาพของชิ้นส่วนที่หลุดรั่วออกมาจากโรงงาน แล้วไปโผล่บนเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง มาสร้างขึ้นเป็นกราฟิกของ iPhone 5 ที่สมบูรณ์ทุกมุมมอง คงจะมีแต่หน้าจอทีเป็น iOS 5 ในขณะที่เชื่อว่า iPhone 5 น่าจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้แล้ว สำหรับดีไซน์ของ iPhone 5 ที่สร้างขึ้นเป็นกราฟิกที่ประกอบจากภาพหลุดของชิ้นส่วน โดยรวมดูคล้าย iPhone 4/4S ยกเว้นบริเวณมุมของเครื่อง และความสูงที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ที่แตกต่างของ iPhone 5 นอกจากบริเวณขอบมุมของตัวเครื่อง และความสูงที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีการออกแบบให้ตัวเครื่องเป็นแบบชิ้นเดียวตลอด ซึ่งทำให้มันดูแตกต่างจาก iPhone 4/4S อย่างเห็นได้ชัด ส่วนขนาดของหน้าจอที่ดูเบ่งบานกว่าเดิม น่าจะทำให้ผู้ใช้แฮปปี้ขึ้น ในขณะเดียวกัน ต้องมาดูกันว่า ถึงเวลานั้นผู้บริโภคจะเลือกอะไรระหว่าง iPhone 5 กับ Galaxy S3 ของ Samsung ที่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ทั่วโลกอย่างล้นหลามจน Apple ต้องออกมาพยายามแตะเบรคด้วยกฎหมาย เพื่่อไม่ให้มันเข้าไปวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ได้โดยง่าย





วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดครั้งที่  ๑
๑. ระบบสารสนเทศหมายถึง
ตอบ   ระบบสารสนเทศ (Information System ) หมายถึง ระบบที่มีการนำคอมพิวเตอร์
มาช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ หรือจัดการกับข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ข้อมุลนั้นกลายเป็น
สารสนเทศที่ดี สามารถนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว
และถูกต้อง

           ระบบสารสนเทศประกอบด้วยองค์ประกอบดังนี้
                      1. Hardware หมายถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการจัดกระทำกับข้อมูล
ทั้งที่เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคิดเลข
                       2. Software หมายถึง ชุดคำสั่ง หรือเรียกให้เข้าง่ายว่า โปรแกรม ที่สามารถ
สั่งการให้คอมพิวเตอร์ทำงานในลักษณะที่ต้องการภายใต้ขอบเขตความสามารถที่เครื่อง
คอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมนั้น ๆ สามารถทำได้ ซอร์ฟแวร์แบ่งออกเป็น ซอร์ฟแวร์ระบบ
และ ซอร์ฟแวร์ประยุกต์
                      3 User หมายถึง กลุ่มผุ้คนที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศ
                      4. Data  หมายถึง ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่อาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
ตัวหนังสือ แสง สี เสียง สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์  ภาพ วัตถุ หรือ หลาย ๆ อย่างผสมผสาน
กัน ซึ่งข้อมูลที่ดีจะต้องตรงกับความต้องการของผู้ใช้
                       5. Procedure หมายถึง  ขั้นตอน กระบวนการต่าง ๆ ในการปฏิบัติงาน
ในระบบสารสนเทศ
                       เมื่อทั้่ง 5 ส่วนดังกล่าวข้างต้น ทำงานประสานกัน ส่งผลให้ข้อมูลเกิดการ
ประมวลผลและนำไปใช้ประโยชน์ นั่นก็คือ สารสนเทศนั่นเอง
                        ซึ่งสารเสนทศนี้จะเป็นสารสนเทศที่ดี จะต้องเป็นสารสนเทศที่มีความถูกต้อง
ตรงกับความต้องการของผู้ใช้และทันเวลาในการใช้งาน
                        กล่าวโดยสรุปก็คือ กระบวนการสารสนเทศเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิด
สารเสนเทศขึ้นมานั่นเอง ซึ่งจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วน นั่นคือ
Hardware Software User  Procedure และ Data 

๒. ทำไมต้องเรียนระบบสารสนเทศ
ตอบ   เพื่อ  การวิเคราะห์และออกแบบระบบระบบสารสนเทศ คือ เราต้องรู้ว่าองค์กรเป็นอย่างไรก่อนทำธุรกิจอะไร ต้องการระบบอะไรเพื่อทีจะนำมาพัฒนาองค์กร ลดต้นทุกองค์กร แล้วนำสิ่งที่ได้มานั้นนำมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้มาเป็นระบบสนเทศ
ดังนั้น เพื่อเป็นเช่นนี้เราก็มารู้จักกันเลยว่า ระบบสารสนเทศคืออะไรก่อน มีหลายคนให้คำนิยามของระบบสารสนเทศไว้ ซึ่งมีหลากหลายกันไปแต่ผลสรุปก็คือมีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์อันเดียวกัน
 ๓. ประโยชน์ของระบบสารสนเทศ
 ตอบ  ประโยชน์ของระบบสารสนเทศ
ประสิทธิภาพ (Efficiency)

1) ระบบสารสนเทศทำให้การปฏิบัติงานมีความรวดเร็วมากขึ้น โดยใช้กระบวนการประมวลผลข้อมูลซึ่งจะทำให้สามารถเก็บรวบรวม ประมวลผลและปรับปรุง้อมูลให้ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว เช่น คอมพิวเตอร์ที่ใช้ประจำบ้านมีขีดความสามารถในการทำงานถึง 450 ล้านคำต่อนาที (million instructions per second) (Haag et al.,2000:19)

2) ระบบสารสนเทศช่วยในการจัดเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ หรือมีปริมาณมากและช่วยทำให้การเข้าถึงข้อมูล (access) เหล่านั้นมีความรวดเร็วด้วย

3) ช่วยทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว การใช้เครือข่ายทางคอมพิวเตอร์ทำให้มีการติดต่อได้ทั่วโลกภายในเวลาที่รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยกัน (machine to machine) หรือคนกับคน (human to human) หรือคนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ (human to machine) และการติดต่อสื่อสารดังกล่าวจะทำให้ข้อมูลที่เป็นทั้งข้อความ เสียง ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวสามารถส่งได้ทันที

4) ช่วยลดต้นทุน การที่ระบบสารสนเทศช่วยทำให้การปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลซึ่งมีปริมาณมากมีความสลับซับซ้อนให้ดำเนินการได้โดยเร็ว หรือการช่วยให้เกิดการติดต่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการประหยัดต้นทุนการดำเนินการอย่างมาก

5) ระบบสารสนเทศช่วยทำให้การประสานงานระหว่างฝ่ายต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดีโดยเฉพาะหาระบบสารสนเทศนั้นออกแบบเพื่อเอื้ออำนวยให้หน่วยงานทั้งภายในและภายนอกที่อยู่ในระบบของซัพพลายทั้งหมด จะทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ และทำให้การประสานงาน หรือการทำความเข้าใจเป็นไปได้ด้วยดียิ่งขึ้น (Turban et al.,2001)
ประสิทธิผล (Effectiveness)

1) ระบบสารสนเทศช่วยในการตัดสินใจ ระบบสารสนเทศที่ออกแบบสำหรับผู้บริหาร เช่น ระบบสารสนเทศที่ช่วยในการสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision support systems) หรือระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (Executive support systems) จะเอื้ออำนวยให้ผู้บริหารมีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้น อันจะส่งผลให้การดำเนินงานสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ไว้ได้

2) ระบบสารสนเทศช่วยในการเลือกผลิตสินค้า/บริการที่เหมาะสมระบบสารสนเทศจะช่วยทำให้องค์การทราบถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับต้นทุน ราคมในตลาดรูปแบบของสินค้า/บริการที่มีอยู่ หรือช่วยทำให้หน่วยงานสามารถเลือกผลิตสินค้า/บริการที่มีความเหมาะสมกับความเชี่ยวชาญ หรือทรัพยากรที่มีอยู่

3) ระบบสารสนเทศช่วยปรับปรุงคุณภาพของสินค้า / บริการให้ดีขึ้นระบบสารสนเทศทำให้การติดต่อระหว่างหน่วยงานและลูกค้า สามารถทำได้โดยถูกต้องและรวดเร็วขึ้น ดังนั้นจึงช่วยให้หน่วยงานสามารถปรับปรุงคุณภาพของสินค้า/บริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้นด้วย

4) ความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage)ปัจจุบัน ระบบสารสนเทศได้มีการนำมาให้ตลอดทั้งระบบซัพพลายเชน (Supply Chain) เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

5 ) คุณภาพชีวิตการทำงาน (Quality of Working Life) ระบบสารสนเทศจะต้องได้รับการออกแบบออกมาเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความต้องการของมนุษย์และประสิทธิภาพของเทคโนโลยีด้วย
เรื่